เอกชนไม่แฮปปี้ หลัง กกพ. ยังคงเคาะค่าไฟที่ 4.77 บาทต่อหน่วย ทำให้ประเภทบ้านที่อยู่อาศัยขยับ 5 สตางค์ต่อหน่วย สวนทางรัฐที่อยากช่วยประชาชน ค่าไฟควรลดกว่านี้ท่ามกลางเศรษฐกิจถดถอย
นายอิศเรศ รัตนดิลก ณ ภูเก็ต รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า รู้สึกผิดหวังที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)ล่าสุดได้พิจารณาค่าไฟฟ้าผันแปรอัตโนมัติ(Ft) เฉลี่ยอยู่ที่ 4.77 บาทต่อหน่วยโดยเป็นอัตราเดียวกันทั้งหมด ซึ่งอัตรานี้เท่ากับไม่ได้ช่วยภาคครัวเรือนเลย
โดยครัวเรือนจ่ายแพงขึ้นอีกราว 5 สตางค์ต่อหน่วย ทั้งๆที่ค่าไฟรอบนี้ทิศทางพลังงานของโลกได้ลดลงตามความเป็นจริงจึงสมควรปรับสมมติฐานราคา ให้เป็นบวกกับ ผู้บริโภคมากขึ้น โดยงวดดังกล่าวที่ลดลงเป็นจากปัจจัยภายนอกทั้งค่าเงิน และราคาพลังงานโลกแต่ในเชิงโครงสร้างยังไม่ได้รับการแก้ไขและหาทางเลือกอื่น
“ที่ผ่านมาไม่มีการตั้งกรรมการ 3 ฝ่าย ซึ่งมีกระทรวงพลังงาน ร่วมกับ กกพ. และคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.) ตามที่หารือเมื่อปลายเดือนมกราคม รัฐยังคงปล่อยให้การแก้ไขเป็นภายใต้กลไกเดิมคือ คณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) มีมติให้ลดราคาลงมาและใช้ราคาเดียวทั้งครัวเรือนและธุรกิจ ส่วนกกพ. ก็ใช้สมมุติฐานค่าพลังงานที่ Conservative ในการทำค่าไฟฟ้า งวดนี้ อีกทั้งการที่ยังมุ่งคืนหนี้กฟผ. แบบเร่งรัดเกินไป ทั้งๆที่เป็นภาวะช่วงราคาพลังงานขาลงควรมีทางออกเรื่องหนี้กฟผ.ให้ดีกว่านี้ โดยภาครัฐสามารถทำให้ราคา Ft ต่ำกว่านี้ ทั้งครัวเรือนและธุรกิจเพื่อลดภาระของประชาชนและภาวะการแข่งขัน ของภาคธุรกิจ ในช่วง เศรษฐกิจโลกถดถอย”
นายอิศเรศกล่าวต่อว่า หลังจากนี้ ทางเอกชนยังจะเดินหน้ากดดันเพื่อขอให้ กกพ.ปรับลดค่าไฟลงให้เหลือ 4.72 บาทต่อหน่วย ตามที่ได้ขอไว้ก่อนหน้านี้
ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ
วันที่ : 22 มี.ค. 2566