ประกาศกระทรวงพลังงาน
เรื่อง กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการยื่นคำขอ การพิจารณา และการได้รับสิทธิ
เป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต สำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย (ครั้งที่ ๒๔)
โดยที่ได้มีประกาศกระทรวงพลังงานกำหนดให้ดำเนินการสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยจำนวน ๓ แปลงสำรวจ ในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิตซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๕๓/๑ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติปิโตรเลียม (ฉบับที่ ๗) พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งจะเป็นการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงด้านพลังงาน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานโดยคำแนะนำของคณะกรรมการปิโตรเลียม จึงเห็นควรเปิดให้มีการยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยจำนวน ๓ แปลงสำรวจดังกล่าว
อาศัยอำนาจตามความในข้อ ๖ วรรคหนึ่ง แห่งกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ๒๕๖๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานจึงออกประกาศเชิญชวนบริษัทผู้สนใจให้เข้าร่วมยื่นคำขอเพื่อเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสำหรับแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยจำนวน ๓ แปลงสำรวจที่กำหนดให้ดำเนินงานสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในรูปแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต โดยมีข้อกำหนด ดังนี้
๑. พื้นที่ที่เปิดให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมในแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทย จำนวน ๓ แปลงสำรวจ ได้แก่ แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G1/65 แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G2/65 และแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยหมายเลข G3/65 ตามประกาศกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เรื่อง การกำหนดเขตพื้นที่แปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยสำหรับการให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ลงวันที่ ๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๔ โดยมีรายละเอียดของเขตพื้นที่แปลงสำรวจตามแผนที่หมายเลข ป.๙๘/๒๕๖๔ ตามเอกสารแนบ ๑ ท้ายประกาศฉบับนี้
๒. ระยะเวลาของสัญญาแบ่งปันผลผลิต
๒.๑ ระยะเวลาสำรวจ กำหนดเป็นระยะเวลา ๖ ปี และหากประสงค์ขอต่อระยะเวลาสำรวจ ให้ยื่นคำขอต่อรัฐมนตรีก่อนสิ้นระยะเวลาสำรวจไม่น้อยกว่าหกเดือน พร้อมข้อผูกพันทั้งด้านปริมาณงานและปริมาณเงินสำหรับระยะเวลาสำรวจที่ขอต่อและขอต่อระยะเวลาได้เพียงครั้งเดียวเป็นเวลาไม่เกิน ๓ ปี เมื่อได้ดำเนินงาน ทั้งด้านปริมาณงานและปริมาณเงินครบถ้วนตามสัญญาทุกประการ และได้ตกลงข้อผูกพันในการดำเนินงานสำหรับระยะเวลาสำรวจที่ได้รับการต่อกับรัฐมนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้วก่อนเริ่มระยะเวลาสำรวจที่ได้รับการต่อ
๒.๒ ระยะเวลาผลิต กำหนดเป็นระยะเวลา ๒๐ ปี นับแต่วันถัดจากวันสิ้นระยะเวลาสำรวจ และมีสิทธิได้รับการต่อระยะเวลาได้อีกครั้งหนึ่งเป็นระยะเวลาไม่เกิน ๑๐ ปี ถ้าได้ปฏิบัติตามสัญญาทุกประการ และขอต่อระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมก่อนสิ้นระยะเวลาผลิตปิโตรเลียมไม่น้อยกว่าหกเดือน ทั้งนี้ ภายใต้ข้อกำหนด ข้อผูกพันและเงื่อนไขที่ใช้อยู่ทั่วไปขณะนั้น
๒.๓ ระยะเวลาการคืนพื้นที่ การคืนพื้นที่แปลงสำรวจให้เป็นไปตามบทบัญญัติของกฎหมายและสัญญา
ผู้สนใจที่จะยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมให้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการและเงื่อนไขดังต่อไปนี้
ข้อ ๑ คุณสมบัติของผู้ขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
ผู้ขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม (ผู้ขอ) ต้องมีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ ในมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ดังต่อไปนี้
๑.๑ เป็นบริษัท โดยต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้
(๑) ผู้ขอต้องเป็นบริษัทที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
(๒) ต้องมีวัตถุประสงค์เพื่อประกอบธุรกิจทางด้านการสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
(๓) ต้องไม่เป็นบริษัทที่ทิ้งการดำเนินงานตามข้อผูกพันที่กำหนดในสัมปทานหรือถูกเพิกถอนสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศไทย
(๔) ต้องไม่เป็นบริษัทที่มีรายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลผู้ถือหุ้น หรือรายชื่อกรรมการและผู้มีอำนาจลงนาม อยู่ในรายชื่อผู้ทิ้งการดำเนินงานตามข้อผูกพันที่กำหนดในสัมปทานหรือถูกเพิกถอนสัมปทานปิโตรเลียมในประเทศไทย
๑.๒ มีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม โดยต้องมีคุณลักษณะ ดังนี้
(๑) สถานะทางการเงินอย่างน้อย ๒ ปีในช่วงระยะเวลา ๓ ปีย้อนหลัง
– มีมูลค่าการถือครองหุ้นในกิจการ (Shareholder’s Equity) ไม่น้อยกว่า ๓๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามร้อยล้านบาทถ้วน) และ
– มีอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียน (Current Ratio) ในอัตราส่วนไม่น้อยกว่า ๑
(๒) มีเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา
ในกรณีที่ผู้ขอไม่มีลักษณะครบถ้วนตาม ๑.๒ ต้องมีบริษัทอื่นซึ่งรัฐบาลเชื่อถือ และมีลักษณะตาม ๑.๒ และมีความสัมพันธ์ในด้านทุนหรือการจัดการกับผู้ขอ รับรองที่จะให้ทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม
ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้ขอประกอบด้วยบริษัทมากกว่าหนึ่งราย ผู้ขอทุกรายต้องมีคุณสมบัติ ตามมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔
ข้อ ๒ การยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
ผู้ขอต้องยื่นคำขอตามแบบ ชธ/ป๑๑ ที่กำหนดโดยกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการขอและการได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามเอกสารแนบ ๒ ท้ายประกาศฉบับนี้ หนึ่งคำขอต่อหนึ่งแปลงสำรวจ และเอกสารการยื่นขอตาม ๒.๑ เป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ พร้อมชำระค่าธรรมเนียมและวางหลักประกันคำขอตาม ๒.๒ ต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติตั้งแต่วันที่ ๕ กันยายน ๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๕ หรือจนกว่าจะมีประกาศเปลี่ยนแปลง โดยยื่น ณ ที่ทำการกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ศูนย์เอนเนอร์ยี่ คอมเพล็กซ์ อาคารบี ชั้น ๒๑ เลขที่ ๕๕๕/๒ ถนนวิภาวดีรังสิต เขตจตุจักร กรุงเทพฯ ในวันและเวลาราชการ
๒.๑ เอกสารการยื่นขอ
๒.๑.๑ เอกสารแสดงคุณสมบัติผู้ขอ
(๑) เอกสารแสดงการเป็นบริษัท
หลักฐานการจดทะเบียนบริษัทที่ขอคัดไว้ไม่เกิน ๓ เดือน และรับรองโดยหน่วยงานที่รับจดทะเบียนที่แสดงถึงการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัท โดยมีรายละเอียดอย่างน้อย ดังนี้
(๑.๑) ชื่อบริษัท
(๑.๒) วันที่จัดตั้ง
(๑.๓) ที่อยู่ของสำนักงานใหญ่
(๑.๔) จำนวนทุนจดทะเบียน
(๑.๕) วัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัท
(๑.๖) รายชื่อบุคคลหรือนิติบุคคลผู้ถือหุ้นของบริษัท
(๒) หลักฐานแสดงรายชื่อกรรมการและผู้มีอำนาจลงลายมือชื่อผูกพันบริษัท หรือกรณีมอบอำนาจต้องแสดงหลักฐานการมอบอำนาจ
(๓) หลักฐานแสดงว่ามีทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญเพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียม โดยมีสถาบันที่เชื่อถือได้ออกหนังสือรับรองว่าเป็นความจริง เช่น รายงานประจำปี งบการเงินหรือผลประกอบกิจการซึ่งแสดงถึงมูลค่าการถือครองหุ้นในกิจการ และอัตราส่วนเงินทุนหมุนเวียนของบริษัทย้อนหลัง ๓ ปี หลักฐานการถือครองสิทธิในพื้นที่สำรวจและผลิตปิโตรเลียมในประเทศต่าง ๆ ในช่วง ๕ ปีที่ผ่านมา หลักฐานการถือครองกรรมสิทธิ์ หลักฐานการจัดซื้อจัดจ้าง สัญญาเช่าเครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์ หรือสัญญาว่าจ้าง เป็นต้น
ในกรณีที่ผู้ขอประกอบด้วยบริษัทมากกว่าหนึ่งราย ผู้ขอทุกรายต้องยื่นเอกสารทั้ง (๑) (๒) และ (๓) ในกรณีที่ผู้ขอไม่มีลักษณะครบถ้วนตาม (๓) ต้องมีบริษัทอื่นซึ่งรัฐบาลเชื่อถือและมีลักษณะครบถ้วนตาม (๓) และมีความสัมพันธ์ในด้านทุนหรือการจัดการกับผู้ขอ ให้การรับรองที่จะให้ทุน เครื่องจักร เครื่องมือ อุปกรณ์และผู้เชี่ยวชาญ เพียงพอที่จะสำรวจ ผลิต ขาย และจำหน่ายปิโตรเลียมแก่ผู้ขอ ทั้งนี้ผู้ขอต้องยื่นหลักฐานตาม (๑) (๒) และ (๓) ของบริษัทผู้ให้การรับรอง และหลักฐานแสดงความสัมพันธ์ในด้านทุนหรือ การจัดการกับผู้ขอด้วย
ในกรณีที่ผู้ขอและ/หรือบริษัทผู้ให้การรับรองเป็นบริษัทจดทะเบียนจัดตั้งตามกฎหมายต่างประเทศ หลักฐานตาม (๑) (๒) และ (๓) ต้องมีหนังสือรับรองของสถานเอกอัครราชทูต สถานทูต หรือสถานกงสุลของประเทศนั้น ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศไทย หรือต้องมีหนังสือรับรองของสถานเอกอัครราชทูต สถานทูต หรือสถานกงสุลของประเทศไทย ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศนั้น หรือต้องมีหนังสือรับรองของโนตารีปับลิคในประเทศนั้นหรือของบุคคลซึ่งมีอำนาจหน้าที่อย่างเดียวกับโนตารีปับลิคในกรณีที่ประเทศที่เป็นที่ตั้งบริษัทผู้ขอไม่มีโนตารีปับลิค
ผู้ขอต้องยื่นเอกสารแสดงคุณสมบัติดังกล่าว โดยผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทต้องลงนามกำกับเพื่อรับรองความถูกต้องในหน้าแรกของเอกสารทุกฉบับและทุกหน้าที่แสดงคุณสมบัติ และให้ยื่นใส่ซองปิดผนึกและระบุชัดเจนบนหน้าซองว่า “เอกสารแสดงคุณสมบัติ” พร้อมระบุชื่อผู้ขอในฐานะ ผู้ดำเนินงานและชื่อแปลงสำรวจที่ยื่นขอ
๒.๑.๒ เอกสารข้อเสนอ
ผู้ขอต้องยื่นเอกสารข้อเสนอในแต่ละแปลงสำรวจดังต่อไปนี้
(๑) เอกสารข้อเสนอข้อผูกพันในด้านปริมาณงานและปริมาณเงินสำหรับการสำรวจปิโตรเลียม
ข้อเสนอข้อผูกพันในด้านปริมาณงานและปริมาณเงินในการสำรวจปิโตรเลียมในแปลงสำรวจแต่ละแปลง ให้เสนอตามแบบการเสนอข้อผูกพันสำหรับการสำรวจปิโตรเลียม ดังแสดงในเอกสารแนบ ๓ ท้ายประกาศฉบับนี้ โดยผู้ขอต้องเสนอข้อผูกพันด้านปริมาณงานและปริมาณเงินตลอดระยะเวลาการสำรวจ (๖ ปี) ไม่ต่ำกว่าข้อผูกพันขั้นต่ำที่กำหนดไว้ในแต่ละแปลงตามเอกสารแนบ ๔ ท้ายประกาศฉบับนี้ พร้อมเหตุผลสนับสนุนข้อเสนอตามรายงานการศึกษาทางธรณีวิทยาตามหัวข้อที่กำหนดในเอกสารแนบ ๕ ท้ายประกาศฉบับนี้ ทั้งนี้ ต้องสอดคล้องกับข้อกำหนดข้อ ๕ (๑) ของกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการขอและการได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ๒๕๖๑
(๒) เอกสารข้อเสนอผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ
ผลประโยชน์ตอบแทนรัฐให้เสนอตามแบบการเสนอดังแสดง ในเอกสารแนบ ๓ ท้ายประกาศฉบับนี้
(๒.๑) ข้อเสนอเกี่ยวกับอัตราร้อยละของปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรที่จะแบ่งให้ผู้รับสัญญา
ผู้ขอต้องเสนอตัวเลขอัตราร้อยละของปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรที่จะแบ่งให้แก่ผู้รับสัญญา ซึ่งจะต้องไม่เกินร้อยละห้าสิบตามที่กฎหมายกำหนด (โดยให้เสนอเป็นเลขจำนวนเต็ม)
(๒.๒) ข้อเสนอเกี่ยวกับการให้ผลประโยชน์พิเศษ
ผู้ขอต้องเสนอผลประโยชน์พิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการชำระค่าภาคหลวง และภาษีเงินได้ปิโตรเลียมตามกฎหมายตลอดระยะเวลาที่ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ในแต่ละแปลงสำรวจ ดังนี้
(๑) เงินให้เปล่าในการลงนาม (Signature Bonus) ไม่น้อยกว่า ๓,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (สามล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาถ้วน) ต่อแปลง โดยผู้ขอที่ได้รับการคัดเลือกจะต้องชำระเงินให้เปล่าในการลงนามไม่น้อยกว่า ๑๐ วันทำการก่อนวันลงนามในสัญญา
(๒) เงินอุดหนุนเพื่อการพัฒนาปิโตรเลียมในประเทศไทยให้แก่ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน ไม่น้อยกว่า ๓,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (สามล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาถ้วน) ต่อแปลง โดยอาจเสนอชำระเป็นครั้งเดียวหรือแบ่งชำระเป็นรายปี ปีละเท่า ๆ กันในช่วงระยะเวลาสำรวจ (๖ ปี)
(๓) เงินให้เปล่าในการผลิต (Production Bonus) เป็นจำนวน ๑,๐๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐอเมริกา (หนึ่งล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกาถ้วน) ต่อแปลง ในแต่ละช่วงของปริมาณผลผลิตรวมของปิโตรเลียมสะสมที่ ๒ ล้านบาร์เรล ๔ ล้านบาร์เรล และ ๖ ล้านบาร์เรลเทียบเท่าน้ำมันดิบ ตามลำดับ (เพื่อประโยชน์ในการกำหนดปริมาณปิโตรเลียม ให้ถือว่าปริมาณความร้อนของก๊าซธรรมชาติจำนวน ๕.๗๓ ล้านบีทียู มีค่าเทียบเท่าปริมาณน้ำมันดิบหนึ่งบาร์เรล)
ทั้งนี้ ผู้ขออาจจะเสนอให้ผลประโยชน์พิเศษอื่น ๆ เช่น การให้เงินทุนการศึกษา ทุนฝึกอบรม เงินสนับสนุนการพัฒนาชุมชนในท้องถิ่น เป็นต้น โดยอาจเสนอชำระเป็นครั้งเดียวหรือรายปีตลอดอายุสัญญา
ผู้ขอต้องยื่นเอกสารข้อเสนอเกี่ยวกับข้อผูกพันในด้านปริมาณงานและปริมาณเงินในการสำรวจปิโตรเลียม และข้อเสนอผลประโยชน์ตอบแทนรัฐดังกล่าว โดยผู้มีอำนาจลงนามของบริษัทต้องลงนามกำกับเพื่อรับรองความถูกต้องในเอกสารทุกฉบับและทุกหน้า และให้ยื่นใส่ซองปิดผนึกที่ระบุชัดเจน บนหน้าซองว่า “ข้อเสนอทางด้านเทคนิคและผลประโยชน์ตอบแทนรัฐ” พร้อมระบุชื่อผู้ขอในฐานะผู้ดำเนินงานและชื่อแปลงสำรวจที่ยื่นขอ และยื่นแยกจากซองเอกสารแสดงคุณสมบัติตาม ๒.๑.๑
๒.๒ ค่าธรรมเนียมและการวางหลักประกันคำขอ
๒.๒.๑ ค่าธรรมเนียมในการยื่นคำขอฉบับละ ๕๐,๐๐๐ บาท (ห้าหมื่นบาทถ้วน) ต่อหนึ่งคำขอต่อหนึ่งแปลงสำรวจ โดยจ่ายเป็นเงินสดเท่านั้นในวันที่ยื่นคำขอ และเงินค่าธรรมเนียมนี้ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะไม่คืนให้ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ทั้งสิ้น
๒.๒.๒ หลักประกันคำขอจำนวน ๓,๐๐๐,๐๐๐ บาท (สามล้านบาทถ้วน) ต่อหนึ่งคำขอต่อหนึ่งแปลงสำรวจ โดยใช้หนังสือค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไข (Unconditional Bank Guarantee) จากธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีสาขาในประเทศไทย และต้องมีระยะเวลาค้ำประกันไม่น้อยกว่า ๑ ปีนับแต่วันที่ยื่นขอ ให้แก่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ
ผู้ขอจะได้รับคืนหลักประกันคำขอเมื่อได้รับแจ้งว่าไม่ได้รับคัดเลือกให้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม หรือ ได้รับการพิจารณาให้ได้รับสิทธิและมาลงนามรับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมแล้ว
ทั้งนี้ ให้ผู้ขอมีหนังสือขอรับคืนหลักประกันคำขอดังกล่าว และกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะคืนหลักประกันคำขอภายใน ๑๕ วันทำการนับแต่วันที่ได้รับหนังสือขอรับคืนหลักประกันคำขอนั้น
ข้อ ๓ การพิจารณาให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม
๓.๑ คำขอที่ได้ยื่นโดยครบถ้วนและถูกต้องตามข้อ 2 จะเป็นคำขอที่สมบูรณ์และได้รับการพิจารณา
๓.๒ มีคุณสมบัติครบถ้วนตามที่กำหนดไว้ในมาตรา ๒๔ แห่งพระราชบัญญัติปิโตรเลียม พ.ศ. ๒๕๑๔ ตามข้อ ๑
๓.๓ ผู้ขอที่ผ่านเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติแล้ว และได้เสนอข้อผูกพันด้านปริมาณงานและปริมาณเงินในการสำรวจปิโตรเลียม (๖ ปีแรก) และผลประโยชน์ตอบแทนรัฐที่เป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนดในแต่ละแปลงสำรวจ จึงจะมีสิทธิเข้ารับการพิจารณาคัดเลือก โดยใช้หลักเกณฑ์ตามข้อ ๓.๔ และข้อ ๓.๕ ต่อไป
๓.๔ กรณีที่แปลงใดมีผู้ผ่านเกณฑ์ตาม ๓.๓ มากกว่าหนึ่งราย การพิจารณาคัดเลือกจะใช้วิธีเปรียบเทียบการให้คะแนนของแต่ละคำขอในเรื่องต่าง ๆ ในข้อเสนอที่เป็นส่วนเพิ่มจากเงื่อนไขที่กำหนด ดังนี้
(๑) ข้อผูกพันด้านปริมาณงานและปริมาณเงินของโครงการสำรวจปิโตรเลียม | ๖๕ คะแนน |
(๒) ผลประโยชนน์ตอบแทนรัฐ | |
(๒.๑) อัตราร้อยละของปิโตรเลียมส่วนที่เป็นกำไรที่จะแบ่งให้ผู้รับสัญญา | ๒๕ คะแนน |
(๒.๒) ผลประโยชน์พิเศษ | ๑๐ คะแนน |
ผู้ขอที่ได้คะแนนรวมสูงสุดจะได้รับคัดเลือกให้เป็นผู้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมของแปลงนั้น
๓.๕ ในการพิจารณาข้อผูกพันการสำรวจปิโตรเลียมจะพิจารณาจากปริมาณงานที่เสนอว่ามีความสอดคล้องกับเหตุผลทางธรณีวิทยาของพื้นที่แปลงสำรวจ และปริมาณเงินที่เสนอมีความเหมาะสมกับปริมาณงานที่จะกระทำหรือไม่
๓.๖ กรณีที่แปลงใดมีผู้ยื่นขอเพียงหนึ่งรายหรือมีผู้ผ่านเกณฑ์ตาม 3.3 เพียงหนึ่งราย ทางราชการสงวนสิทธิที่จะพิจารณายกเลิก หรือให้ หรือไม่ให้สิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตของแปลงนั้นก็ได้ตามที่ทางราชการเห็นสมควร ทั้งนี้ ผู้ขอจะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใด ๆ ต่อทางราชการทั้งสิ้น
ข้อ ๔ การได้รับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต
กระทรวงพลังงานจะมอบสิทธิให้ผู้ขอที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตโดยออกเป็นสัญญาแบ่งปันผลผลิตหนึ่งสัญญาต่อหนึ่งแปลงสำรวจ ทั้งนี้ สัญญาแบ่งปันผลผลิตเป็นไปตามแบบ ชธ/ป๑๒ ที่กำหนดโดยกฎกระทรวงกำหนดแบบสัญญาแบ่งปันผลผลิต พ.ศ. ๒๕๖๑ ตามเอกสารแนบ ๖ ท้ายประกาศฉบับนี้
เมื่อกระทรวงพลังงานได้ประกาศผลการพิจารณาให้สิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม และได้แจ้งกำหนดวัน เวลา และสถานที่เพื่อลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิตแก่ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต โดยกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรไปยังที่อยู่ที่ระบุไว้ในเอกสารยื่นคำขอให้ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตดำเนินการดังต่อไปนี้
๔.๑ ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต้องวางหลักประกันการดำเนินงานต่อกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ เพื่อให้กระทรวงพลังงานมั่นใจว่าจะสามารถดำเนินงานตามข้อผูกพันที่กำหนด ทั้งนี้ กำหนดให้วางประกันเป็นจำนวนเงินเท่ากับปริมาณเงินตามข้อผูกพันการสำรวจที่ได้เสนอและผลประโยชน์พิเศษที่เสนอให้แก่รัฐ (ยกเว้นเงินให้เปล่าในการลงนามและเงินให้เปล่าในการผลิต) ในช่วงการสำรวจทั้ง ๖ ปี โดยให้ใช้หนังสือค้ำประกันแบบไม่มีเงื่อนไข (Unconditional Bank Guarantee) จากธนาคารพาณิชย์ซึ่งมีสาขาในประเทศไทย ฉบับเดียวหรือหลายฉบับรวมกันก็ได้ แต่รวมกันแล้วต้องมีมูลค่าไม่น้อยกว่าปริมาณเงินตามข้อผูกพันการสำรวจที่ได้เสนอและผลประโยชน์พิเศษที่เสนอให้แก่รัฐ หนังสือค้ำประกันนี้มีระยะเวลาค้ำประกันไม่น้อยกว่า ๖ ปีนับแต่วันลงนามในสัญญา
ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต้องวางหลักประกันการดำเนินงานให้แก่กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติอย่างน้อย ๑๐ วันทำการก่อนวันลงนามในสัญญาแบ่งปันผลผลิต
หากผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตมิได้วางหลักประกันการดำเนินงานตามที่กำหนด หรือมิได้มาลงลายมือชื่อรับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม ภายในระยะเวลาที่กำหนดโดยไม่มีเหตุอันสมควร จะถือว่าไม่ประสงค์จะรับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต และยินยอมให้ริบหลักประกันคำขอ ทั้งนี้ ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต จะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายหรือสิทธิใด ๆ จากทางราชการทั้งสิ้น
หลักประกันการดำเนินงานจะคืนให้แก่ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตทั้งหมดเมื่อได้ปฏิบัติตามข้อผูกพันการสำรวจและผลประโยชน์พิเศษครบถ้วน ทั้งนี้ ผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตสามารถขอปรับลดวงเงินค้ำประกันการดำเนินงานเมื่อได้ดำเนินงานตามข้อผูกพันการสำรวจและผลประโยชน์พิเศษในแต่ละปี
เมื่อผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตมีหนังสือแจ้งความประสงค์ขอรับคืนหลักประกันการดำเนินงาน กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติจะคืนหลักประกันการดำเนินงานดังกล่าวภายใน ๑๕ วันนับแต่วันที่ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติตรวจสอบแล้วว่าปฏิบัติงานครบถ้วน
หากผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตไม่สามารถปฏิบัติตามข้อผูกพันที่กำหนดหรือเงื่อนไขการคืนหลักประกันการดำเนินงานได้ กระทรวงพลังงานสงวนสิทธิในการบอกเลิกสัญญา และริบหลักประกันการดำเนินงาน
๔.๒ ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตต้องชำระเงินให้เปล่าในการลงนามตามที่ได้เสนอไว้ ล่วงหน้าไม่น้อยกว่า ๑๐ วันทำการก่อนวันลงนามในสัญญา โดยให้ชำระเป็นเช็คหรือดราฟท์ที่ธนาคารเซ็นสั่งจ่ายกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ ซึ่งเป็นเช็คหรือดราฟท์ลงวันที่ที่ใช้เช็คหรือดราฟท์นั้นชำระต่อเจ้าหน้าที่ หรือก่อนวันนั้นไม่เกิน ๓ วันทำการ และออกโดยธนาคารพาณิชย์เฉพาะสาขาในประเทศไทยเท่านั้น
หากผู้ขอที่ได้รับการคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตมิได้ชำระเงินให้เปล่า ในการลงนามตามที่กำหนด จะถือว่าไม่ประสงค์จะรับสิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต และยินยอมให้ริบหลักประกันคำขอ ทั้งนี้ ผู้ขอที่ได้รับคัดเลือกเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิต จะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายหรือสิทธิใด ๆ จากทางราชการทั้งสิ้น
ข้อ ๕ ข้อสงวนสิทธิและอื่น ๆ
๕.๑ ทางราชการสงวนสิทธิที่จะไม่รับพิจารณาคำขอใด ๆ ของผู้ขอในกรณี
๕.๑.๑ ยื่นคำขอเมื่อพ้นจากกำหนดเวลาตามข้อ ๒
๕.๑.๒ ยื่นเอกสารไม่ถูกต้องครบถ้วนตาม ๒.๑
๕.๑.๓ ไม่ชำระค่าธรรมเนียมหรือไม่วางหลักประกันตาม ๒.๒
๕.๑.๔ แสดงเอกสารหรือข้อมูลที่ไม่ถูกต้องหรือเป็นเท็จ
ทั้งนี้ ผู้ขอจะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใด ๆ ต่อทางราชการทั้งสิ้น
๕.๒ ทางราชการสงวนสิทธิที่จะพิจารณายกเลิก หรือให้ หรือไม่ให้สิทธิเป็นผู้รับสัญญาแบ่งปันผลผลิตในแปลงสำรวจในทะเลอ่าวไทยตามประกาศฉบับนี้แก่ผู้ขอรายหนึ่งรายใดก็ได้ และผู้ขอจะไม่เรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใด ๆ จากทางราชการ
๕.๓ คำขอ ข้อกำหนดและเงื่อนไข รวมถึงข้อเสนอที่ผู้ขอเสนอตามประกาศฉบับนี้จะถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาแบ่งปันผลผลิต
๕.๔ การคืนหลักประกันใด ๆ ให้แก่ผู้ขอ เป็นการคืนเฉพาะหลักประกันโดยไม่มีดอกเบี้ย
๕.๕ ผู้ได้รับสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียมจะต้องดำเนินการภายใต้พระราชบัญญัติปิโตรเลียมและกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
๕.๖ กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติมีสิทธิเรียกให้ผู้ขอชี้แจงหรือยื่นเอกสารชี้แจงเพิ่มเติมในรายละเอียด ทั้งนี้ ต้องไม่ให้เกิดการได้เปรียบเสียเปรียบกับผู้ขอรายอื่น ๆ
๕.๗ ผู้ขอต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในการยื่นขอเองทั้งสิ้น และไม่สามารถเรียกร้องค่าใช้จ่ายหรือค่าเสียหายใด ๆ ต่อทางราชการได้
ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dmf.go.th ในกรณีที่มีข้อสงสัยเกี่ยวกับการให้ยื่นขอสิทธิสำรวจและผลิตปิโตรเลียม สามารถสอบถามมายังกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติผ่านทางไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ที่ [email protected]
ประกาศ ณ วันที่ ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๕
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
แหล่งที่มาของข่าว ประกาศ-กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ (dmf.go.th)