ในช่วงของการจัดงานมหกรรมยานยนต์ครั้งที่ 38 หรืองาน Motor Expo 2021 ที่ อาคารชาเลนเจอร์ 3 อิมแพค เมืองทองธานี ระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2564 นี้ คนที่สนใจอยากจะลงทุนทำธุรกิจสถานีชาร์จรองรับการเติบโตของรถยนต์ไฟฟ้า ต้องไม่พลาดบูธ H05-1 ของ EGAT+Wallbox โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.)
บูธนี้ของ กฟผ. มีอะไรดี? ต้องบอกเลยว่าหนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือเจ้าตัวโมเดล “Supernova” ซึ่งเป็นเครื่องอัดประจุไฟฟ้าแบบชาร์จเร็ว (DC Fast Charger) รุ่นใหม่ ภายใต้แบรนด์ EGAT + Wallbox ตั้งโชว์อยู่ให้เห็นรูปลักษณ์หน้าตาที่ทันสมัย พร้อมมีผู้รู้คอยอธิบายรายละเอียดของการใช้งานให้ทราบว่าดีตรงไหน? คุ้มค่าอย่างไร?
ในวันเปิดตัว “Supernova” ที่บูธ EGAT + Wallbox ในงาน Motor Expo 2021 เมื่อวันที่ 1 ธ.ค. 2564 ที่ผ่านมา ซึ่งมีนายสาธิต ครองสัตย์ ผู้ช่วยผู้ว่าการวิจัย นวัตกรรม และพัฒนาธุรกิจ กฟผ. มาเป็นประธาน ทีมศูนย์ข่าวพลังงาน Energy News Center หรือ ENC ได้รับเกียรติให้ไปร่วมงานด้วย และได้พูดคุยถึงรายละเอียดเบื้องต้นของ Supernova กับ คุณโอห์ม “เศรษฐศิษฏ์ ชาติการุณ” หัวหน้าแผนกธุรกิจระบบโครงข่ายไฟฟ้าดิจิทัลและพลังงานใหม่ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจเกี่ยวเนื่อง กฟผ. จึงถือโอกาสนำมาเล่าต่อให้ทราบกัน
คุณโอห์มมองว่า ปัจจุบันและในอนาคต เจ้าของกิจการ เช่น โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ฟิตเนส ร้านอาหาร ร้านกาแฟ หรืออยู่ในสถานที่ที่มีผู้คนต้องแวะพักเข้าไปใช้บริการ จำเป็นต้องมีสถานีชาร์จไฟฟ้าเอาไว้บริการลูกค้าที่ขับรถ EV ซึ่งกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้นเรื่อยๆ เพราะรัฐบาลมีนโยบายสนับสนุน ซึ่งเป็นการให้บริการและอำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าที่มาแวะ เพราะเพียงแค่จอดรถชาร์จไฟไว้แค่ 15 นาที รถยนต์ไฟฟ้าก็วิ่งไปต่อได้ไกลถึง 100 กิโลเมตร ซึ่ง Supernova รองรับหัวชาร์จทุกค่ายรถยนต์ ทั้งแบบ CCS (Combined Charging System ที่รถไฟฟ้าในอเมริกาและยุโรปนิยมใช้) และ CHAdeMo (CHArge de Move ใช้แพร่หลายในญี่ปุ่น)
เมื่อถามว่า ทำไมเมื่อพูดถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แล้วต้องนึกถึงเจ้า “Supernova” และ EGAT+Wallbox ก็ได้รับคำตอบจากคุณโอห์ม ว่า เพราะ EGAT+Wallbox มีทีมงานที่ให้บริการครบ เป็น Solution ตั้งแต่ต้นจนจบ ทั้งการช่วยเลือกสถานที่ การออกแบบ ติดตั้งระบบฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ การอัพเกรด การซ่อมบำรง และการรับประกันการใช้งาน แบบจ่ายครบจบในที่เดียว ผูกบริการกันไปได้นานไม่ต้องย้ายค่าย สำหรับคนที่อยากจะทำธุรกิจสถานีชาร์จ ที่ประเมินแล้วมีระยะเวลาคุ้มทุน 2-3 ปีขึ้นอยู่กับความต่อเนื่องในการใช้งาน
สำหรับผลิตภัณฑ์ล่าสุดของ EGAT+Wallbox คือ เจ้า “Supernova” ที่นำมาเปิดตัวในงาน Motor Expo 2021 ครั้งนี้ คุณโอห์ม แนะนำว่า ไม่อยากให้ผู้ที่สนใจลงทุนต้องจ่ายแพงเกินความจำเป็นในช่วงเริ่มต้น Supernova จึงเป็นตู้ชาร์จที่มีหน้าตาก้าวล้ำทันสมัย ขนาด 60 กิโลวัตต์ เหมาะกับความสามารถในการรับกำลังไฟฟ้าสูงสุดของรถ EV ในท้องตลาดปัจจุบัน ที่ชาร์จกันอยู่แค่ 60 กิโลวัตต์ แต่ในอนาคต หากมีรถ EV หลากหลายขึ้นและสามารถรับกำลังไฟฟ้าได้สูงขึ้น Supernova ก็สามารถอัพเกรดตัวเองให้เป็น 100 กิโลวัตต์ได้ โดยไม่ต้องซื้อเครื่องอัดประจุไฟฟ้าใหม่ ดังนั้น ลูกค้าจึงไม่ต้องลงทุนติดตั้งเครื่อง 100 กิโลวัตต์แบรนด์อื่นที่แพงกว่าไปล่วงหน้า
“หากปีหน้า เริ่มมีรถยนต์ไฟฟ้าที่ชารจ์กันด้วยเครื่อง 100 กิโลวัตต์มากขึ้น ผู้ลงทุนก็สามารถเติมพาวเวอร์โมดูล (Power Module) เพื่ออัพเกรดขึ้นไปเป็น 100 กิโลวัตต์ได้ เปรียบเหมือนซื้อคอมพิวเตอร์แล้วมาเพิ่มแรม เพื่อเพิ่มความแรงทีหลังได้ ถือเป็นการค่อยๆ ลงทุนที่ Flexible ที่แบรนด์อื่นทำไม่ได้แบบนี้”
คุณโอห์มอธิบาย
“หรืออีกกรณีหนึ่ง หากมีการติดตั้ง Supernova เอาไว้ 2 เครื่อง แล้วยังไม่เพิ่มพาวเวอร์โมดูล เทคโนโลยีที่ทาง Wallbox ออกแบบไว้จะมี DC Link Technology ที่สามารถยืมไฟจากอีกตู้มา Boost ตัวเองให้เป็น 100 กิโลวัตต์ได้ก่อนชั่วขณะที่ว่างทั้ง 2 ตู้ จะทำให้ชาร์จได้เร็วขึ้นเหมือนเครื่อง 100 กิโลวัตต์”
คุณโอห์มอธิบาย
นอกจากนั้น จุดเด่นที่สำคัญอีกหนึ่งอย่างของ Supernova คือการดีไซน์ให้ reliable มากขึ้น จากปกติที่ ตู้ 60 กิโลวัตต์จะใช้พาวเวอร์โมดูล 2 ชุด ชุดละ 30 กิโลวัตต์ แต่ Supernova ของ EGAT+Wallbox ออกแบบเป็น 10 กิโลวัตต์ 6 ชุด อิสระจากกัน เพื่อที่เมื่อชุดใดชุดหนึ่งเกิดใช้งานไม่ได้ ชุดที่เหลือก็ยังสามารถจ่ายประจุไฟฟ้าได้ ซึ่งจะช่วยสร้างความต่อเนื่องในการใช้งาน เนื่องจากหากตู้ชาร์จเสียหรือดาวน์บ่อยๆ ลูกค้าก็มักจะเสียความรู้สึกและไม่เข้าไปใช้บริการอีก ซึ่ง EGAT+Wallbox มองเห็นปัญหานี้ จึงได้ออกแบบให้ตู้ชาร์จมีความเสถียรในการจ่ายไฟฟ้า นอกจากนั้น ในเรื่องการระบายความร้อนหรือ Efficiency ยังทำได้สูงสุดถึง 97%
“เราวาง Supernova ไว้ให้ในตำแหน่งผลิตภัณฑ์ที่รูปลักษณ์สวย ราคาดี (ถูกกว่าเครื่องชาร์จแบบ Fast Charge อื่นๆ ในตลาดเกือบ 50%) มีเสถียรภาพในการจ่ายไฟ เพื่อให้ผู้ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ง่ายขึ้น”
ผู้ที่สนใจและตัดสินใจเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ ของ EGAT+Wallbox ในระหว่างงาน Motor Expo 2021 ตั้งแต่วันนี้ -12 ธันวาคม 2564 จะได้รับสิทธิพิเศษมากมาย ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.egatevchargers.com และ Line ID : @egatwallbox
ตู้อัดประจุไฟฟ้า EGAT+Wallbox รวมทั้ง EGAT DC Quick Charger นับเป็นอีกหนึ่งในโมเดลธุรกิจที่จะช่วยขับเคลื่อนการพัฒนาธุรกิจยานยนต์ไฟฟ้าของ กฟผ. ภายใต้ EGAT EV Business Solutions ที่ประกอบไปด้วย ผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆที่เกี่ยวข้อง ทั้ง สถานีอัดประจุไฟฟ้า “EleX by EGAT” และ Mobiile Application Platform “EleXA” รวมถึงระบบบริหารจัดการ เครือข่ายสถานีอัดประจุไฟฟ้า “BackEN” หรือ Backend EGAT Network Operator Platform ซึ่ง EGAT EV Business Solutions นี้ จะช่วยพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและสนับสนุนให้เกิดระบบนิเวศยานยนต์ไฟฟ้าของประเทศได้ในที่สุด
ที่มา: Energy News Center
วันที่ : 3 ธ.ค. 2564