ปตท.เร่งตัดสินใจลงทุนโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจก๊าซฯ ปี 2564 เพิ่มอีกกว่า 2 หมื่นล้านบาท หวังช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจยุคโควิด-19 ยังแพร่ระบาด โดย คาดความต้องการใช้ก๊าซฯปี 2564 ยังเติบโตได้ที่ 4,800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีการใช้ก๊าซฯอยู่ที่ 4,300-4,400 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งมาจากการใช้ในภาคอุตสาหกรรมและโรงไฟฟ้าเป็นหลัก
นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ปตท.จะเร่งตัดสินใจลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานธุรกิจก๊าซเพิ่มเติมในปี 2564 นี้ เพื่อเป็นการกระตุ้นการลงทุนและช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้แก่ การก่อสร้างโรงแยกก๊าซธรรมชาติแห่งใหม่ (แห่งที่ 7) เพื่อทดแทนโรงแยกก๊าซ แห่งที่ 1 มูลค่าลงทุนกว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า จะก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566-2567 ขณะนี้อยู่ระหว่างกระบวนการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) และโครงการระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติบนบกจากบางปะกงไปโรงไฟฟ้าพระนครใต้เพื่อรองรับโรงไฟฟ้าตามแผน PDP2018 (ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1) มูลค่าประมาณ 11,000 ล้านบาท ตามแผนคาดว่า จะก่อสร้างเสร็จในปี 2568
ซึ่งการลงทุนทั้ง 2 โครงการ มูลค่ากว่า 21,000 ล้านบาท นี้ จะสามารถตัดสินใจได้ภายในปี 2564 นี้
ขณะที่โครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและยังเป็นไปตามแผน ได้แก่ โครงการ LNG Terminal 2 (หนองแฟบ) รองรับก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) มูลค่าประมาณ38,500 ล้านบาท จะแล้วเสร็จตามแผนในปี 2565 และการก่อสร้างโครงการท่อส่งก๊าซเส้นที่ 5 มูลค่าประมาณ 17,207 ล้านบาท ขณะนี้ได้เริ่มทดสอบนำก๊าซฯส่งผ่านท่อฯแล้ว
ส่วนกรณี มติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ(กพช.) เมื่อวันที่ 1 เม.ย.2564 ที่เห็นชอบแนวทางการส่งเสริมการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ ระยะที่ 2 โดยมอบหมายให้กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ และปตท. พิจารณาปริมาณการนำเข้า LNG กับความสามารถของ LNG Terminal ที่เหลือที่จะนำเข้า LNG โดยไม่ส่งผลกระทบต่อภาระ Take or Pay และนำเสนอต่อคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน(กบง.) และ กพช. ภายในไตรมาส 2 นั้น นายวุฒิกร กล่าวว่า ปตท.คาดหมายว่า จะเห็นการนำเข้า LNG ของผู้ได้รับใบอนุญาตจัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (LNG Shipper) รายใหม่ ได้ในช่วง ไตรมาส 3 ปี 2564 นี้ ส่วนไตรมาส 4 อาจดำเนินการได้ยาก เนื่องจากเป็นช่วงที่ต่างประเทศมีความต้องการใช้ก๊าซฯสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อราคาตลาดจร ( Spot) LNG ขณะที่ปัจจุบัน ราคา Spot LNG ส่งมอบเดือน มิ.ย. 2564 นี้ ปรับเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ประมาณ 10 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อล้านบีทียู
ปัจจุบัน ปตท.มี 4 สัญญาระยะยาวนำเข้าLNG รวม 5.2 ล้านตันต่อปี และปี 2564 นี้คาดว่า ประเทศจะมีความต้องการใช้ LNG อยู่ที่ 6.5 ล้านตัน จึงคาดว่าจะต้องนำเข้าเพิ่มตั้งแต่ 0.5-0.8 ล้านตัน หรือกว่า 1 ล้านตัน ก็จะเป็นโอกาสสำหรับ Shipper รายใหม่ แต่ตัวเลขในส่วนนี้เป็นแค่การประเมินของ ปตท. ซึ่งยังต้องรอการพิจารณาจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติและคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) ที่ชัดเจนอีกครั้ง
สำหรับความต้องการใช้ก๊าซธรรมชาติของประเทศในปี2564 นี้ ปตท.คาดว่าจะเติบโตใกล้เคียงกับปี 2562 ที่มีปริมาณการใช้ก๊าซฯอยู่ที่ 4,700-4,800 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2563 ที่มีการใช้ก๊าซฯอยู่ที่ 4,300-4,4000 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน แม้จะมีการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่การใช้ก๊าซฯในภาคอุตสาหกรรมและภาคไฟฟ้ายังเติบโตได้ ส่วนที่ลดลงอยู่ในภาคบริการและท่องเที่ยวเป็นหลัก
โดยในช่วงไตรมาสแรกของปี 2564 นี้ (ม.ค.-มี.ค.2564) พบว่า การใช้ก๊าซฯ อยู่ที่ประมาณ 4,600 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน เพิ่มขึ้น 7-8% จากปีก่อน ส่วนในช่วงไตรมาส 2 ปี 2564 นี้ ยังไม่สามารถประเมินได้ เนื่องจากยังต้องติดตามผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่คาดว่าจะมีผลชัดเจนขึ้นในช่วงเดือน พ.ค. 2564 นี้ก่อน
ที่มา: Energy News Center
วันที่ : 11 พ.ค. 2564