ปตท. คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นในสัปดาห์นี้ หลังรัฐสภาสหรัฐฯบรรลุข้อตกลงมาตรการเยียวยาโควิด-19 กว่า 9 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ รวมถึงปัจจัยคาดการณ์ความต้องการน้ำมันของจีนที่จะเพิ่มสูงขึ้นแตะระดับสูงสุดในปี 2573
หน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบสัปดาห์นี้ (21 – 25 ธ.ค. 2563) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากนักลงทุนคลายกังวลต่อแผนเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐฯ หลังรัฐสภาสหรัฐฯ สามารถบรรลุข้อตกลงมาตรการเยียวยา COVID-19 มูลค่า 908,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในขณะเดียวกัน China National Petroleum Corp. (CNPC) คาดการณ์อุปสงค์น้ำมันของจีนจะแตะระดับสูงสุดในปี 2573 ที่ 740 ล้านตัน (ประมาณ 14.8 ล้านบาร์เรลต่อวัน) เพิ่มขึ้น 1.4% จากที่เคยคาดการณ์ไว้ในปี 2562 และจะลดลงสู่ระดับ 310 ล้านตัน (ประมาณ 6.2 ล้านบาร์เรลต่อวัน) ในปี 2593
ทั้งนี้ คาดว่าสัปดาห์นี้ ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (ICE Brent) จะเคลื่อนไหวที่ระดับ 50 – 54 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล
สำหรับสถานการณ์ราคาน้ำมันเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา (14 – 18 ธ.ค. 2563) ราคาปรับเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้านั้น โดยน้ำมันดิบเบรนท์อยู่ที่ 51.18 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล ส่วนราคาน้ำมันดิบดูไบอยู่ที่ 50.82 เหรียญสหรัฐฯต่อบาร์เรล
โดยปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวกเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คือกรณีที่ Food and Drug Administration (FDA) ของสหรัฐฯ รับรองความปลอดภัยและประสิทธิผลของวัคซีนต้าน COVID-19 ตัวที่สอง จากบริษัท Moderna ซึ่งพัฒนาร่วมกับสถาบันสุขภาพแห่งชาติสหรัฐฯ เป็นกรณีฉุกเฉิน โดยคณะกรรมการเห็นว่าวัคซีนของโมเดอร์นามีประโยชน์มากกว่าความเสี่ยง ต่อผู้รับวัคซีนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป รวมถึงปัจจัยที่รัฐบาลสหรัฐฯ ยังคงใช้มาตรการคว่ำบาตรกดดันอิหร่าน โดยประกาศขึ้นบัญชีดำ 4 บริษัท ที่สนับสนุนการส่งออกสินค้าปิโตรเคมีให้บริษัท Triliance Petrochemical Co Ltd. ได้แก่ บริษัท Donghai International Ship Management Ltd. และ Petrochem South East Ltd. ในจีน, Alpha Tech Trading FZE และ Petroliance Trading FZE ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
ส่วนปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้แก่ รายงานของ Baker Hughes Inc. ที่ระบุจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบ (Rig) ในสหรัฐฯ ณ สัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 15 ธ.ค. 63 ว่ามีเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อน 5 แท่น มาอยู่ที่ 263 แท่น สูงสุดตั้งแต่เดือน พ.ค. 63 และจากการที่ผู้ว่าการรัฐ New York ของสหรัฐฯ นาย Andrew Cuomo ประกาศให้ร้านอาหารหยุดให้บริการ ตั้งแต่วันที่ 14 ธ.ค. 63 เนื่องจากอัตราการแพร่ระบาดของ COVID-19 (Transmission Rate: RT) แตะระดับ 1.3 (ผู้ติดเชื้อ 1 ราย แพร่เชื้อไปยังผู้อื่น 1.3 ราย) ขณะที่เยอรมนีเริ่มปิดร้านค้าและสถานศึกษา ช่วง 16 ธ.ค. 63 – 10 ม.ค. 64
วันที่ : 22 ธ.ค. 2563