รัฐมนตรีพลังงาน เห็นพ้องข้อเสนอ สภาพัฒน์ฯ สั่งรวบ 5 แผนหลักพลังงาน ซึ่งประกอบด้วย แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) และแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ให้กลายเป็นแผนเดียวภายใน 6-8 เดือนนี้
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยเมื่อวันที่ 22 ต.ค.2563 ถึงกรณีข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) หรือสภาพัฒน์ฯ ที่ให้รวม 5 แผนพลังงานหลักเป็นแผนเดียวว่า ได้สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปบูรณาการ 5 แผนพลังงาน คือ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (PDP) แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก (AEDP) แผนอนุรักษ์พลังงาน (EEP) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ (Gas Plan) รวมทั้งแผนบริหารจัดการน้ำมันเชื้อเพลิง (Oil Plan) ให้เป็นแผนเดียวกัน ภายใน 6-8 เดือนนี้
โดยให้จัดทำรายละเอียดแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจนในทุกๆ 5 ปี (ปี2561-2565) ซึ่งขณะนี้เหลือเวลา 3 ปี ดังนั้น กระทรวงพลังงาน จะต้องจัดทำแผนปฏิบัติการฯ ช่วงปี 2563-2565 ให้ชัดเจน โดยเป้าหมายการดำเนินงานหลักๆในทุกแผน ยังอยู่เหมือนเดิม เช่น เป้าหมายส่งเสริมการใช้พลังงานทดแทนให้มีสัดส่วน 30% ของพลังงานไฟฟ้าทั้งประเทศ ภายใน 20 ปี เพื่อให้บรรลุป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก 20-25% ภายในปี 2573 ตามข้อตกลงกรุงปารีส(COP21) เป็นต้น จากนั้นจะมีการจัดทำแผนปฏิบัติการต่อทุกๆ 5 ปี เพื่อให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (ปี 2561 – 2580)
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน ( Energy News Center-ENC ) รายงานว่า เมื่อวันที่ 20 ต.ค.2563 คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบ มติกพช.เมื่อวันที่ 19 มี.ค.2563 ที่ผ่าน 4 ร่างแผนพลังงานแล้ว คือ แผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ พ.ศ. 2561-2580 ฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1(PDP 2018 Rev.1), แผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก( AEDP 2018),แผนอนุรักษ์พลังงาน( EEP 2018 ) และแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติ( Gas 2018) ส่วน Oil Plan 2018 ยังจัดทำไม่แล้วเสร็จ โดยข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ(สศช.) ที่ให้รวบทั้ง5 แผนดังกล่าวเป็นแผนเดียวกัน เพื่อความสะดวกรวดเร็ว ง่ายต่อการที่ทาง สภาพัฒน์ฯ จะพิจารณาเห็นชอบ
ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า แนวคิดการจัดทำ 5 แผนหลักพลังงานดังกล่าว ริเริ่มในสมัยที่นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม เป็นปลัดกระทรวงพลังงาน เมื่อปี 2557 ที่ต้องการให้การดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับดูแลของกระทรวงพลังงาน เป็นไปในทิศทางเดียวกัน ไม่เกิดความซ้ำซ้อน โดยให้ยึดแผนPDP เป็นหลักในการที่จะปรับแผนอื่นๆให้สอดคล้อง มีระยะเวลาเริ่มต้นและสิ้นสุดแผนพร้อมกัน จากเดิมที่ต่างกรม มีแผนการดำเนินงานของแต่ละกรม แต่มาในยุคปัจจุบัน ทางสภาพัฒน์ฯและ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เห็นตรงกันว่าการแยกจัดทำแผนดังกล่าวเป็นเรื่องที่มีความยุ่งยากในการจัดการและพิจารณาอนุมัติ
ที่มา: Energy News Center
วันที่ : 22 ต.ค. 2563