คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เห็นชอบในหลักการให้ BGRIM นำเข้าก๊าซLNG ได้เร็วขึ้น คาดเริ่มนำเข้าแบบ SPOTในปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปีเดือนธ.ค.63 นี้ ก่อนจะขยายปริมาณเป็น 6.5 แสนตันต่อปีในสัญญาระยะยาว 10 ปี เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าใหม่ 7 โรงที่จะเข้าระบบในปี 2565 ตามกรอบที่ขออนุมัติ กกพ.ไว้ก่อนหน้านี้ โดยการนำเข้าดังกล่าวจะไม่กระทบสัญญาซื้อขายก๊าซฯที่ทำไว้กับ ปตท. เพราะเป็นปริมาณส่วนเกินจากความต้องการใช้ตามสัญญา
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆนี้ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ได้อนุมัติในหลักการให้ BGRIM นำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG) ได้เร็วขึ้น จากที่ก่อนหน้านี้ กกพ.ได้อนุมัติใบอนุญาตให้ BGRIM เป็นผู้จัดหาและค้าส่งก๊าซธรรมชาติ (Shipper) จำนวน 6.5 แสนตันต่อปี พร้อมกับเอกชนราย อื่นๆอีก 2 ราย เพื่อรองรับนโยบายการเปิดเสรีก๊าซธรรมชาติในประเทศ
โดยล่าสุด BGRIM ได้จัดส่งรายละเอียดและแผนนำเข้า LNG ให้ กกพ.พิจารณาและได้รับการอนุมัติเรียบร้อยแล้ว ซึ่งคาดว่าจะนำเข้าได้เร็วสุดประมาณเดือนธ.ค. 2563 นี้ เพื่อป้อนให้กับโรงไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่ 17 โรง
ทั้งนี้แผนการนำเข้า LNG ในช่วงแรกเบื้องต้นจะมีปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปี โดยจะเป็นการนำเข้าในช่วงสั้นๆ เพียง 2 ปี จากนั้นในปี 2565 ที่โรงไฟฟ้าใหม่ 7 โครงการ กำลังการผลิต 980 เมกะวัตต์ สามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ จึงจะเพิ่มปริมาณนำเข้าเป็น 6.5 แสนตันต่อปีตามที่ขออนุมัติกับ กกพ.ไว้
โดยการนำเข้าLNG ปริมาณ 2.5 แสนตันต่อปีในช่วงแรก จะเป็นการจัดซื้อแบบตลาดจร (Spot) เพื่อใช้กับโรงไฟฟ้าเดิมที่มีอยู่ 17 แห่ง ซึ่งจะไม่กระทบต่อสัญญาการซื้อขายก๊าซฯกับบริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) เนื่องจากเป็นการนำเข้าในส่วนที่เกินจากความต้องการใช้ก๊าซที่ตกลงไว้
ในขณะที่การจัดหา LNG ที่เพิ่มปริมาณเป็น 6.5 แสนตันต่อปี ทาง BGRIM กำลังพิจารณา เป็นสัญญาระยะยาว 10 ปี ดังนั้นจะต้องทำประกันความเสี่ยงราคาก๊าซไว้ด้วย เพื่อป้องกันความผันผวนของราคาก๊าซLNGในอนาคต พร้อมยืนยันว่าการนำเข้า LNG ในราคาที่ถูก จะช่วยลดต้นทุนค่าไฟฟ้าในภาคอุตสาหกรรมได้มาก และช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้ผู้ประกอบการไทยในเวทีต่างประเทศได้อีกด้วย
ที่มา: Energy News Center
วันที่ : 09 ต.ค. 2563