กรมธุรกิจพลังงาน คาดยกเลิกการใช้ น้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ได้ในปีหน้า โดยขั้นแรกจะปรับราคาจำหน่ายให้เท่ากับ แก๊สโซฮอล์ 95 จากปัจจุบันราคาห่างกันเพียง 20 สตางค์ต่อลิตร เพื่อให้คนหันมาใช้ E20 หรือ แก๊สโซฮอล์ 95 แทน
นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาทิศทางพลังงานทดแทน ซึ่งจัดโดยคณะกรรมาธิการพลังงาน สภาผู้แทนราษฎร เมื่อ วันที่ 14 ก.ค.2563 ว่า กรมฯ เตรียมปรับลดชนิดน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศลง ตามแผน Oil Plan 2018
โดยตั้งเป้าหมายให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์E20เป็นน้ำมันพื้นฐานของกลุ่มเบนซิน และจะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์91 เพื่อให้ประชาชนหันไปใช้ E20 และแก๊สโซฮอล์95 ก่อน จากที่ปัจจุบันมีราคาห่างกัน 20 สตางค์ต่อลิตร
ทั้งนี้คาดว่าจะใช้เวลาเตรียมการ 9 เดือนนับตั้งแต่ 1 ต.ค.2563 ในการยกเลิก แก๊สโซฮอล์91 เพื่อให้ โรงกลั่นน้ำมันและคลังน้ำมัน มีระยะเวลาในการเตรียมความพร้อม
สำหรับขั้นตอนต่อไปหลังจากยกเลิกแก๊สโซฮอล์91 ก็จะทำให้ราคาE20 ถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ประมาณ 3-4 บาทต่อลิตร เพื่อจูงใจให้ประชาชนหันมาใช้ E20 มากขึ้น จนสุดท้ายก็สามารถยกเลิกการจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 95 ต่อไปได้
อย่างไรก็ตาม หากผลักดันE20เป็นน้ำมันพื้นฐานสำเร็จ จะส่งผลให้การใช้เอทานอลไปสู่เป้าหมายที่ 7.5 ล้านลิตรต่อวันได้ จากที่ปัจจุบันใช้อยู่ 4-5 ล้านลิตรต่อวัน
ส่วนกลุ่มน้ำมันดีเซล กำลังอยู่ระหว่างผลักดันให้ไบโอดีเซลB10 เป็นน้ำมันพื้นฐานของกลุ่มดีเซล ซึ่งตั้งแต่ 1 ต.ค.2563 นี้ B10 จะต้องเปลี่ยนชื่อเป็นดีเซล ส่วนไบโอดีเซล B7 มีแผนจะยกเลิกในปี 2575 เนื่องจากคาดว่าเป็นปีที่รถรุ่นเก่าจะหมดไปจากตลาด
ทั้งนี้กรมฯตั้งเป้าหมายการใช้B10 ให้ถึง 50 ล้านลิตรต่อวันในเดือน ก.ย. 2563 จากปัจจุบันใช้อยู่ 19-20 ล้านลิตรต่อวัน และตั้งเป้าหมายให้มีการใช้น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์ 100%หรือ B100 จำนวน 7 ล้านลิตรต่อวัน จากปัจจุบันใช้อยู่ 5.5 ล้านลิตรต่อวัน
นอกจากนี้ตามแผนOil Plan 2018 กำหนดให้รถที่ใช้ก๊าซหุงต้ม(LPG)เป็นเชื้อเพลิงต้องหมดไปจากตลาดในปี 2580 ด้วย
ที่มา: Energy News Center
วันที่ : 14 ก.ค. 2563