รัฐมนตรีพลังงาน ยอมรับการผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้มาก จากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยี ระบุหากจำเป็นต้องปรับแผน PDP2018 Rev 1 อีกรอบก็พร้อมเจรจากับผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) เพื่อเลื่อนจ่ายไฟเข้าระบบ แต่จะไม่ขยับโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน และการรับซื้อไฟฟ้าจากพลังงานลม 270 เมกะวัตต์ ในขณะที่ยังไม่พิจารณาต่ออายุมาตรการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 3 เดือน เพื่อเยียวยาผลกระทบโควิด-19 ที่จะสิ้นสุดในเดือน พ.ค. 2563
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยถึงกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้ยื่นคำร้องต่อผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้เสนอแนะต่อคณะรัฐมนตรี จากกรณีที่ประชาชนผู้ใช้ไฟฟ้าต้องร่วมกันแบกรับภาระค่าไฟฟ้าจากการที่รัฐกำหนดให้ผลิตไฟฟ้าเกินความต้องการใช้ว่า ยอมรับว่าการผลิตไฟฟ้าปัจจุบันเกินความต้องการใช้ เพราะการเติบโตของภาคเศรษฐกิจที่ผ่านมาไม่เป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ รวมถึงการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี อย่างไรก็ตามกระทรวงพลังงานได้มีการติดตามอย่างใกล้ชิดและพร้อมจะเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเฉพาะการผลักดันให้ไทยก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางซื้อขายไฟฟ้าในภูมิภาคอาเซียน
นอกจากนี้แล้วตามแนวทางการส่งเสริมการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า(EV) และเทคโนโลยีดังกล่าวที่กำลังมาเร็วขึ้น ก็จะมีส่วนสำคัญต่อการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ โดยเมื่อถึงเวลานั้น การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีอย่างรวดเร็วหรือ Disruptive Technology จะทำให้การใช้ไฟฟ้าเติบโตอย่างก้าวกระโดดและหากเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว ถึงเวลานั้น ไฟฟ้าที่มากขณะนี้อาจไม่เพียงพอก็เป็นไปได้
อย่างไรก็ตามในส่วนของการปรับปรุงแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ฉบับปรับปรุง ครั้งที่ 1 (PDP 2018 Rev 1 ) นั้น ได้มีการพิจารณาให้สอดรับกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปด้วย ดังนั้นโรงไฟฟ้าต่างๆ จะยังเกิดขึ้นภายใต้แผนที่กำหนดไว้โดยไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง มีเพียงโรงไฟฟ้าชุมชน และโรงไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ปรับให้เร็วขึ้น ( ตามแผน PDP2018 Rev 1 จะมีไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าชุมชน 1,933 เมกะวัตต์ และจากพลังงานลมเข้าสู่ระบบในปี 2565-2567 รวม 270 เมกะวัตต์ ) เพราะอีกส่วนหนึ่งนั้นจะต้องคำนึงถึงพลังงานสะอาดหรือ Green Energy ด้วย
” ในระยะสั้นหากมีการพิจารณาแล้วว่าจำเป็นต้องเจรจาเลื่อนโรงไฟฟ้าขนาดเล็กหรือ SPP ออกไปเพื่อบริหารไฟฟ้าให้สมดุลกับความต้องการก็ทำได้ โดยสามารถเลื่อนเข้า เลื่อนออกให้เหมาะสมได้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องก็ต้องไปดู ” นายสนธิรัตน์กล่าว
ในส่วนของมาตรการค่าไฟฟ้าฟรีสำหรับผู้ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 150 หน่วยต่อเดือน และการให้ส่วนลดค่าไฟฟ้าเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ช่วงเดือน มี.ค.-พ.ค. 2563 และจะสิ้นสุดในเดือนพ.ค.นี้ นั้น ยังไม่มีการหารือเกี่ยวกับการต่ออายุมาตรการดังกล่าว
ที่มา : Energy News Center
วันที่ : 28 พ.ค. 2563