“สนธิรัตน์” เผยทุกอย่างพร้อมแล้ว คาด “กกพ.” จะเปิดรับซื้อไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนนำร่องควิกวิน 100 เมกะวัตต์ได้ในเร็วๆ นี้ แม้แผนพีดีพีปรับปรุงไม่ผ่าน ครม.แต่ทำคู่ขนานได้ ซึ่งระหว่างนี้ยังไม่ต้องลงนาม พร้อมติดตามสถานการณ์น้ำมันใกล้ชิด
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) ได้ส่งรายละเอียดการรับฟังความเห็นเกณฑ์การจัดหาไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากฉบับสมบูรณ์ไปยังคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เรียบร้อยแล้ว จึงคาดว่า กกพ.จะสามารถประกาศรับซื้อไฟฟ้าจากภาคเอกชนได้ในเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทยฉบับปรับปรุงครั้งที่ 1 (PDP 2018Rev.1) ที่ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ (กพช.) เมื่อ 19 มี.ค. 63 แต่ยังไม่ผ่านการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) นั้นเป็นเรื่องที่สามารถดำเนินการทำขนานกันไปได้
“การประกาศรับซื้อโรงไฟฟ้าชุมชนที่จะนำร่องในส่วนของระยะเร่งด่วนหรือควิกวิน 100 เมกะวัตต์นั้นสามารถทำควบคู่ขนานกันไปได้โดยไม่ต้องรอมติ ครม. โดยการประกาศรับซื้อจะลงนามในสัญญาก็ต่อเมื่อพีดีพีผ่าน ครม.เรียบร้อยแล้ว ซึ่งโครงการต้องการให้เป็นโครงการที่ร่วมกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก จ้างงานอย่างรวดเร็ว ส่งเสริมเกษตรกรปลูกพืชพลังงาน ก็จะเป็นส่วนหนึ่งลดผลกระทบจากโควิด-19” รมว.พลังงานกล่าว
สำหรับสถานการณ์การใช้น้ำมันที่มีแนวโน้มจะลดลงจากผลกระทบโควิด-19 นั้น เบื้องต้น ครม.เมื่อ 3 เม.ย. ได้เห็นชอบมาตรการผ่อนปรนการจัดเก็บสำรองน้ำมันดิบตามกฎหมายจาก 6% เหลือ 4% เป็นระยะเวลา 1 ปี นับจากเดือนเมษายน 2563-เมษายน 2564 จากนั้นระยะที่ 2 สำรองเป็น 5% เป็นระยะเวลาอีก 1 ปี, ขยายระยะเวลาการคงอัตราสำรองก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) ตามกฎหมายที่ 1% ออกไปอีกเป็นระยะเวลา 6 เดือน (สิ้นสุด 30 มิถุนายน 2564) และสนับสนุนการเพิ่มปริมาณการจัดเก็บน้ำมันของคลังน้ำมันบริเวณคลองเตย บางจาก ช่องนนทรี กรุงเทพฯ เพื่อรองรับภาวะน้ำมันที่มีปริมาณล้นสต๊อก โดยให้มีปริมาณการจัดเก็บน้ำมันสูงสุดได้ตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเบื้องต้นน่าจะเป็นมาตรการที่เพียงพอในการดูแลผลกระทบโดยยังคาดหวังว่าสถานการณ์โควิด-19 จะคลี่คลายโดยเร็ว และการใช้น้ำมันจะเพิ่มขึ้น
“คงต้องติดตามสถานการณ์การใช้น้ำมันใกล้ชิดรวมถึงทิศทางของตลาดโลกด้วย ยังเร็วเกินไปที่จะเพิ่มมาตรการดูแลสต๊อกน้ำมันเพื่อป้องกันการขาดทุน” นายสนธิรัตน์กล่าว
รายงานข่าวแจ้งว่า ผลกระทบของโควิด-19 ทำให้ความต้องการใช้น้ำมันลดลงอย่างหนัก ส่งผลราคาน้ำมันดิบปิดตลาดเมื่อวันที่ 27 เม.ย. WTI ส่งมอบเดือน มิ.ย. ร่วงลง 4.16 ดอลลาร์ หรือ 24.6% ปิดที่ 12.78 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลาดคาดถังน้ำมันของสหรัฐฯ กำลังกักเก็บน้ำมันใกล้เต็มความจุ
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/business/detail/9630000044310
วันที่ : 28 เม.ย. 2563