“สนธิรัตน์” กำชับ กกพ.เช็กระบบลงทะเบียนของ กฟน.และ กฟภ.ให้พร้อม 100% วันที่ 25 มี.ค.นี้ คาดประชาชนขอคืนเงินประกันการใช้ไฟฟ้าจำนวนมาก หวังเม็ดเงินเยียวยาเศรษฐกิจฐานรากช่วงโควิด-19 กว่า 3.2 หมื่นล้านบาทในช่วงเดือน เม.ย.นี้
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้กำชับให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เร่งไปตรวจดูความพร้อมของระบบการคืนเงินค่าประกันการใช้ไฟฟ้าตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 มี.ค.ที่ผ่านมาให้แก่ประชาชนทั่วไปและเจ้าของกิจการขนาดเล็ก ทั้งในส่วนของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) คิดเป็นวงเงินถึง 32,700 ล้านบาท โดยมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิถึง 22.17 ล้านราย
“เราจำเป็นต้องเตรียมพร้อมระบบรองรับให้มีประสิทธิภาพสูงสุด เพราะคาดว่าจะมีปริมาณผู้ยื่นขอจำนวนมาก โดยเฉพาะผู้ขอผ่านแอปพลิเคชัน เว็บไซต์ และระบบออนไลน์ทั้งหมด ซึ่งการไฟฟ้าจะต้องอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับเงินคืนเร็วที่สุด ก็จะช่วยบรรเทาความเดือดร้อนช่วงเศรษฐกิจได้รับผลกระทบจากโรคโควิด-19”
ทั้งนี้ กกพ.ได้ออกประกาศหลักเกณฑ์เรื่องการคืนหลักประกันการใช้ไฟฟ้าให้แก่ผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทที่ 1 บ้านอยู่อาศัย และประเภทที่ 2 กิจการขนาดเล็ก พ.ศ. 2563 แล้ว โดย กฟน.และ กฟภ.จะเปิดให้ประชาชนตรวจสอบสิทธิ์และลงทะเบียนได้ตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. 2563 นี้ตามช่องทางที่กำหนดไว้ และเริ่มทยอยคืนเงินให้ประชาชนตั้งแต่วันที่ 31 มี.ค. 2563 เป็นต้นไป
นายสนธิรัตน์เชื่อว่ามาตรการคืนเงินประกันมิเตอร์ไฟฟ้าจะทำให้เกิดเงินหมุนเวียนเศรษฐกิจฐานรากตลอดช่วงเดือนเมษายนสามารถนำไปจับจ่ายใช้สอยสินค้าหรือเก็บไว้ใช้ยามจำเป็น ส่วนจำนวนเงินมากหรือน้อยนั้นขึ้นกับวงเงินที่วางประกันหรือขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าตามประกาศของ กกพ. เช่น ถ้าเป็นระดับครัวเรือน เงินคืนก็อยู่ตั้งแต่ 300-6,000 บาท ส่วนประเภทกิจการขนาดเล็กนั้นตัวเลขเงินคืนจะเป็นหลักหมื่นบาทขึ้นไป เป็นต้น
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/business/detail/9630000029141
วันที่ : 23 มี.ค. 2563