“สนธิรัตน์” เดินหน้าพลังงานบนดินหลังประสบความสำเร็จดีเซล B10 ยกระดับราคาปาล์ม เตรียมพร้อมประกาศให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน มิ.ย.นี้ หลัง ธพ.หารือได้ข้อสรุปเตรียมเสนอพิจารณากำหนดโรงกลั่นเลิกผลิตแก๊สโซฮอล์ 91 มีผล 1 มิ.ย. เลิกขายแก๊สโซฮอล์ 91 มีผล 1 ก.ย. หวังยกระดับราคามันสำปะหลัง และอ้อย
นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงานได้มอบกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เตรียมความพร้อมที่จะประกาศกำหนดให้น้ำมันแก๊สโซฮอล์ E20 (เบนซินผสมเอทานอล 20%) เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานของประเทศ คาดว่าจะประกาศได้ภายในมิถุนายนนี้ ทั้งนี้เพื่อยกระดับราคามันสำปะหลังและอ้อยซึ่งเป็นวัตถุดิบหลักในการนำมาผลิตเอทานอล หลังจากที่ก่อนหน้ากระทรวงพลังงานได้ประกาศให้น้ำมันดีเซล B10 (ดีเซลผสมบี 100 จำนวน10%) เป็นน้ำมันดีเซลพื้นฐานเมื่อ 1 ม.ค. 63 เพื่อสนับสนุนราคาปาล์ม
“ที่ผ่านมากระทรวงฯ ได้ประสบความสำเร็จอย่างมากในการผลักดันให้ราคาปาล์มมีเสถียรภาพและราคาสูงขึ้นหลังจากประกาศใช้ B10 ดังนั้น E20 ก็จะเป็นอีกมาตรการทางกลุ่มเบนซินที่จะมาผลักดันราคาพืชเกษตรในส่วนของการผลิตเอทานอลทั้งมันสำปะหลังและอ้อย โดยนโยบายนี้จะเป็นการใช้แบบถาวร” นายสนธิรัตน์กล่าว
น.ส.นันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) กล่าวว่า เมื่อเร็วๆ นี้ ธพ.ได้หารือกับกลุ่มโรงกลั่นน้ำมันและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อสรุปแนวทางการกำหนดแก๊สโซฮอล์ E20 เป็นน้ำมันเบนซินพื้นฐานและการลดประเภทชนิดน้ำมันกลุ่มเบนซินลง ซึ่งที่ประชุมได้ข้อยุติแล้วว่าจะยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ส่วนระยะเวลาการประกาศนั้นจะต้องเสนอให้ รมว.พลังงานเป็นผู้พิจารณาเพื่อออกประกาศเป็นสำคัญ
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการหารือร่วมกันเบื้องต้นในที่ประชุมได้สรุปที่จะกำหนดให้โรงกลั่นน้ำมันเลิกการผลิตน้ำมันแก๊สโซฮอล์ 91 ตั้งแต่ 1 มิถุนายน 2563 นี้เพื่อกำหนดให้ E20 เป็นน้ำมันพื้นฐาน และจากนั้นให้ผู้ค้าน้ำมันได้ปรับตัวในการยกเลิกการจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมัน (ปั๊ม) โดยจะมีผลในวันที่ 1 กันยายน 2563 เป็นต้นไป
นายพิพัฒน์ สุทธิวิเศษศักดิ์ นายกสมาคมการค้าและผู้ผลิตเอทานอลไทย กล่าวว่า ปัจจุบันโรงงานเอทานอล 26 แห่งมีการผลิตเอทานอลประมาณ 1,600 ล้านลิตรต่อปี ขณะที่กำลังการผลิตจริงนั้นมีสูงถึง 2,200 ล้านลิตรต่อปี แต่ยอมรับว่าปีนี้ปริมาณอ้อยของไทยมีผลผลิตลดต่ำทำให้กากน้ำตาล (โมลาส) ที่จะมาผลิตเอทานอลลดตามไปด้วย แต่จากการหารือร่วมกับภาครัฐแล้วการยกเลิกจำหน่ายแก๊สโซฮอล์ 91 วันที่ 1 ก.ย.นี้จะไม่มีปัญหาการขาดแคลนเพราะจะใช้วิธีการบริหารจัดการด้านราคาเป็นสำคัญ
“จะเห็นว่าวันนี้ราคาแก๊สโซฮอล์ 91 นั้นต่ำกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 เพียง 27 สตางค์ต่อลิตร คนก็ยังคงใช้แก๊สโซฮอล์ 91 พอสมควร และ E20 เองแม้จะถูกกว่าแก๊สโซฮอล์ 95 ถึง 3 บาทต่อลิตรคนจำนวนหนึ่งก็ยังไม่มาเติม ดังนั้น เมื่อเลิกแก๊สโซฮอล์ 91 จึงมองว่าการใช้เฉลี่ยก็จะไม่ได้ต่างไปจากเดิม คนส่วนหนึ่งก็จะใช้แก๊สโซฮอล์ 95 และอีกส่วนก็จะไปใช้ E20 และรัฐสามารถใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงมาดูแลในเรื่องราคาหากช่วงใดที่เกรงว่าเอทานอลจะตึงตัวก็ไม่ต้องส่งเสริมด้านราคาให้ต่ำเกินไปเพื่อดูสมดุล” นายพิพัฒน์กล่าว
ที่มา : ผู้จัดการออนไลน์
https://mgronline.com/business/detail/9630000026108
วันที่ : 15 มี.ค. 2563