กลุ่มปตท. เตรียมแผนลดใช้น้ำในโรงงานที่ตั้งอยู่ในภาคตะวันออก รับสถานการณ์ภัยแล้งปี2563 พร้อมเสนอคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) เปิดประมูลให้เอกชนร่วมลงทุนกับรัฐ (Public Private Partnership-PPP) ผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ป้อนพื้นที่แหลมฉบัง มาบตาพุด
นายชาญศิลป์ ตรีนุชกร ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัทปตท.จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ในปี 2563 นี้ กลุ่ม ปตท.เตรียมแผนรองรับสถานการณ์ภัยแล้งที่จะส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนน้ำเพื่ออุตสาหกรรมในพื้นที่ภาคตะวันออก โดยเบื้องต้นกลุ่ม ปตท.มีแผนลดการใช้น้ำลง และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
ทั้งนี้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ได้เข้ามาดูแลและบูรณาการทุกฝ่ายเพื่อให้มีน้ำเพียงพอ ทั้งการกักเก็บน้ำและผันน้ำจากแหล่งน้ำต่าง ๆ เพื่อนำมาใช้ โดยหวังว่าปริมาณฝนจะตกลงมาในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. 2563 ซึ่งจะทำให้สามารถผ่านพ้นปัญหาขาดแคลนน้ำในภาคอุตสาหกรรมไปได้ในปี 2563นี้
อย่างไรก็ตาม ปตท.ได้เสนอ กนช.ให้เปิดประมูลในรูปแบบการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือPPP เพื่อร่วมลงทุนผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล ในพื้นที่แหลมฉบัง มาบตาพุด บริษัทในกลุ่ม ปตท.มีความพร้อมทั้ง บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด(มหาชน) หรือ PTTGC และบริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน)หรือTOP
โดยการประมูลรูปแบบ PPP นั้น รัฐบาลควรจะเข้ามาสนับสนุนในส่วนของการถมทะเล ,ที่ดิน ,ค่าภาษีต่าง ๆ เพราะการดำเนินโครงการมีต้นทุนที่สูง แต่มองว่าคุ้มค่าในระยะยาวเพราะน้ำทะเลไม่มีขาดแคลน
“ปัจจุบันภาคอุตสาหกรรมพึ่งพิงแหล่งน้ำจากธรรมชาติเพียงอย่างเดียว ถ้าไม่มีน้ำจากแหล่งธรรมชาติก็อาจจะส่งผลกระทบต่อภาคอุตสาหกรรมได้ ดังนั้นหากสามารถผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเลได้ในสัดส่วน 10-20% ก็จะสามารถช่วยลดผลกระทบในภาวะที่ขาดแคลนน้ำจากธรรมชาติลงได้บ้าง” นายชาญศิลป์ กล่าว
ที่มา : Energy News Center
วันที่ : 6 ก.พ. 2563