กกพ.เผยการซัพพลายก๊าซให้โรงไฟฟ้าหลักของกฟผ. เพื่อความมั่นคงด้านพลังงานยังเป็นบทบาทของ ปตท. ซึ่งดีมานด์ใหม่ที่นอกเหนือจากนี้ จะเปิดเสรีให้มีการแข่งขัน
นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ประธานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.) เปิดเผยถึง แนวทางการส่งเสริมเปิดเสรีกิจการก๊าซธรรมชาติ ว่า ขณะนี้ทาง กกพ.ยังรอนโยบายที่ชัดเจนจากทางกระทรวงพลังงาน เพื่อนำมาปรับปรุงหลักเกณฑ์และกฎระเบียบต่างๆ ให้สอดรับกับนโยบาย โดยเบื้องต้นในส่วนของการซัพพลายก๊าซเพื่อเป็นเชื้อเพลิงให้กับโรงไฟฟ้าหลัก ที่เป็นความมั่นคงทางพลังงานให้กับประเทศ จะยังเป็นบทบาทของ ปตท.ในการเป็นผู้จัดหา ซึ่งก๊าซจะมาจาก 3 ส่วน คือ จากแหล่งผลิตในอ่าวไทย จากประเทศเมียนมาร์ และก๊าซธรรมชาติเหลว(LNG ) นำเข้า ส่วนการซัพพลายก๊าซที่เหลือซึ่งจะเป็น LNG นั้น จะเปิดเสรีให้มีการแข่งขันกัน ซึ่งปัจจุบัน มี การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ที่ได้ใบอนุญาต ไปแล้ว
โดยการคำนวณราคาก๊าซฯ จะแยกเป็น 2 Pool ที่จะมีต้นทุนที่แตกต่างกัน ซึ่งในส่วนของ กกพ. ก็จะต้องไปดูเรื่องของการกำกับดูแลอัตราการใช้บริการโครงข่ายระบบท่อก๊าซ การเช่าคลังก๊าซ รวมทั้งการให้ปตท.แยกศูนย์บริหารจัดการระบบท่อส่งก๊าซ ออกมาให้ชัดเจน เพื่อขอใบอนุญาต ซึ่งจะทำให้ผู้ที่จัดหาLNG รายอื่นได้รับความเป็นธรรม
ผู้สื่อข่าวศูนย์ข่าวพลังงาน(Energy News Center-ENC ) รายงานว่า นโยบายการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ ในช่วงที่นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน นั้น กำหนดให้ปตท.เป็นผู้จัดหาLNG เฉพาะส่วนที่มีสัญญาระยะยาว 20ปี แล้ว จำนวน5.2ล้านตันต่อปี ส่วนที่เหลือหากมีดีมานด์เพิ่มขึ้น ให้เปิดให้มีการแข่งขันในการจัดหา โดยที่มีผู้เล่นรายใหม่ คือกฟผ. และมีรายอื่นๆ ที่แสดงความสนใจที่จะขอใบอนุญาต เป็นLNG Shipper แต่เมื่อมาถึงช่วงที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้มีการปรับนโยบายที่เกี่ยวกับการเปิดเสรีธุรกิจก๊าซ โดยจะเปิดให้มีการแข่งขันจัดหาLNG นำเข้า เฉพาะส่วนที่เป็นดีมานด์ใหม่ ที่เพิ่มขึ้นนอกเหนือจาก สัญญาหลักที่ ปตท.กำลังมีการเจรจากับกฟผ.
ที่มา : Energy News Center